

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย 
อำเภอครบุรี หรือที่เรียกขานกันว่าเป็น "เมืองป่าต้นน้ำมูล" เป็นอำเภอที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดนครราชสีมา คำว่า "ครบุรี" สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า "กรบุรี" (กะ-ระ-บุ-รี) ซึ่งแปลว่า "เมืองต้นน้ำ" หรือ "เมืองที่เป็นบ่อเกิดแห่งสายน้ำ" เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้นและภูเขาสูง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำมูล สายเลือดหลักของชาวอีสาน
อำเภอครบุรีตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดนครราชสีมา ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 58 กิโลเมตร มีเนื้อที่กว้างขวางและอุดมสมบูรณ์ โดยมีอาณาเขตติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ: ติดต่อกับอำเภอโชคชัยและอำเภอสูงเนิน
ทิศตะวันออก: ติดต่อกับอำเภอเสิงสางและอำเภอหนองบุญมาก
ทิศใต้: ติดต่อกับอำเภอวัฒนานคร (จังหวัดสระแก้ว) และอำเภอตาพระยา (จังหวัดสระแก้ว)
ทิศตะวันตก: ติดต่อกับอำเภอปักธงชัยและอำเภอวังน้ำเขียว
อำเภอครบุรีมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและโดดเด่นด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ: เขื่อนมูลบน (หาดจอมทอง), อุทยานแห่งชาติทับลาน, สะพานไม้ร้อยปี (บ้านโคกกระชาย), และปรางค์ครบุรี ซึ่งเป็นโบราณสถานขอม
ประเพณีและวัฒนธรรม: งานทุเรียนต้นน้ำมูลและของดีอำเภอครบุรี, ประเพณีแห่เทียนพรรษา และวิถีชีวิตเกษตรกรรมที่เข้มแข็ง
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอครบุรี มีภารกิจหลักในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่อำเภอครบุรี เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนฐานราก
โดยมีการดำเนินงานครอบคลุมพื้นที่การปกครองทั้ง 12 ตำบล ของอำเภอครบุรี มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมอาชีพและผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ที่ขึ้นชื่อของอำเภอ เช่น ผลไม้ (ทุเรียน ขนุน), ผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร และงานฝีมือ รวมถึงการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา งานพัฒนาชุมชนได้มีการปรับเปลี่ยนบทบาทและภารกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐบาล ดังนี้
ยุคเริ่มต้น (พ.ศ. 2505 - พ.ศ. 2520): เน้นการสร้างความเข้าใจในงานพัฒนาชุมชน การจัดตั้งกลุ่ม และการส่งเสริมสุขอนามัยพื้นฐานให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
ยุคแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (พ.ศ. 2520 - พ.ศ. 2530): บทบาทเริ่มซับซ้อนขึ้น เน้นการบูรณาการแผนงานพัฒนาชุมชนเข้ากับแผนพัฒนาของอำเภอและจังหวัด การส่งเสริมอาชีพและการเพิ่มรายได้
ยุควิกฤตเศรษฐกิจและการปฏิรูป (พ.ศ. 2540): บทบาทในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป้ามาของ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอครบุรีเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่
ยุคปัจจุบัน (พ.ศ. 2550 - ปัจจุบัน): เป็นการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็งยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลชุมชน การพัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์ และการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ครอบคลุมทุกมิติ